ซื้อของด้วย ‘เงินแบบเดิมๆ vs บิทคอยน์’ แบบไหนดีกว่ากัน!?

ซื้อของด้วย ‘เงินแบบเดิมๆ vs บิทคอยน์’ แบบไหนดีกว่ากัน!? WikiBit 2021-12-08 19:25

หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามาอยู่ในกระแสหลัก หลาย ๆ บริษัท ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็ต่างเริ่มประกาศรับชำระสินค้าเป็นบิทคอยน์กันแล้ว แต่ยังไงเหรียญก็มี 2 ด้าน วันนี้เราจึงพามารู้จักข้อดีและข้อเสียของการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์กัน!

  หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามาอยู่ในกระแสหลัก หลาย ๆ บริษัท ทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็ต่างเริ่มประกาศรับชำระสินค้าเป็นบิทคอยน์กันแล้ว บางประเทศก็ถึงกับยอมรับบิทคอยน์ให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากเว่อ! แต่ยังไงเหรียญก็มี 2 ด้าน วันนี้เราจึงพามารู้จักข้อดีและข้อเสียของการจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์กัน!

  ข้อดี

  1. บิทคอยน์ปลอดภัยกว่าการชำระเงินแบบเดิม ๆ

  โควิด-19 ทำให้เกิดการฉ้อโกงบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น มีปริมาณเม็ดเงินดอลลาร์ที่ถูกทำธุรกรรมฉ้อโกงเพิ่มขึ้น 35% ในเดือนเมษายน 2020 บัตรเครดิตและเดบิตเป็นสาเหตุของการฉ้อโกงส่วนใหญ่ในบรรดาวิธีการชำระเงินทั้งหมด

  Cryptocurrency ถือว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิต เนื่องจากคริปโตไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม เมื่อลูกค้าชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล ข้อมูลของพวกเขาจะไม่ถูกจัดเก็บในฮับแบบรวมศูนย์ ซึ่งมักเกิดการรั่วไหลของข้อมูล ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิตอลของพวกเขา

  2. บิทคอยน์ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า

  ปกติแล้ว ลูกค้ามีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เช่น PayPal คิดค่าบริการเกือบ 4% ต่อธุรกรรม (บางครั้งก็มากกว่านั้น) แต่ Cryptocurrency เรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามาก ในการซื้อขาย Bitcoin Exchange บางแห่งมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า 1% หากธุรกิจของคุณให้บริการลูกค้าต่างประเทศ cryptocurrency สามารถช่วยหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมการชำระเงินในสกุลเงินต่างประเทศได้ เนื่องจากคริปโตไม่ได้ผูกติดอยู่กับประเทศต้นทางหรือธนาคารระดับชาติ ส่งผลให้ธุรกิจไม่ต้องรอการชำระเงินเพื่อเคลียร์ธนาคารต่างประเทศหรือชำระค่าใช้จ่าย

  3. บิทคอยน์มีมูลค่าเพิ่ม

  เทรดเดอร์ส่วนมากต่างซื้อบิทคอยน์มาเพื่อเก็งกำไร เพราะนัยหนึ่งบิทคอยน์ก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นทองคำดิจิทัล การใช้จ่ายด้วยบิทคอยน์บางครั้งเราจึงได้กำไรเพิ่มอย่างไม่รู้ตัว เช่น ถ้าเราซื้อ bitcoin มา 1 BTC ในราคา 1 ล้านบาท แล้วราคาตลาดขึ้นเป็น 1.5 ล้านบาท เราเอา 1 BTC ไปแลกนาฬิกา Rolex 1 เรือน ราคา 1.5 ล้านบาท นั่นหมายความว่าเรามี “กำไร” 5 แสนบาท แต่ในทางกลับกัน มูลค่าก็มีความผันผวน ถ้าหากราคาบิทคอยน์ต่ำลง ข้อดีข้อนี้ก็จะกลายเป็นข้อเสียเช่นกัน

  ข้อเสีย

  1. จ่ายด้วยบิทคอยน์ ต้องจ่ายภาษีด้วย

  cryptocurrency เป็น “ทรัพย์สิน” เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษี ทุกครั้งที่คุณขาย ซื้อ หรือใช้ Bitcoin คุณต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย (เหมือนที่อธิบายไว้ในข้อ 3) ซึ่งตามกฎหมายไทย กำหนดให้กำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ซื้อต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

   2. โอนผิดแล้วเอาคืนไม่ได้

  ธุรกรรม Cryptocurrency ไม่สามารถย้อนกลับได้ เพราะธุรกรรมในโลกคริปโตไม่ได้ระบุตัวตน ไม่ได้ครอบงำภายใต้หน่วยงานไหน ความเป็นอิสระจึงเป็นดาบ 2 คม ถ้าโอนผิดคือผิด ไม่มีคืนเงิน ซึ่งต่างจากธุรกรรมในบัตรเครดิตที่สามารถยกเลิกได้ หรือโอนเงินผิดก็ไปแจ้งอายัดบัญชีปลายทางได้

  3. ยังถือว่าเสี่ยงมาก

  แฟน ๆ Crypto ต่างชื่นชมที่สกุลเงินนี้ปลอดจากภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลไม่สามารถจัดการมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลได้ ซึ่งเป็นทั้งความเสี่ยงและผลประโยชน์ เพราะในทางกลับกัน มูลค่าของ bitcoin และ crypto อื่น ๆ มีความผันผวนอย่างมาก ความผันผวนของ Bitcoin สูงถึงเกือบ 8% ความคาดเดาไม่ได้ในระดับนั้น ทำให้สกุลเงินดิจิทัลป้องกันความเสี่ยงได้ยาก

  ยังจะตัดสินใจใช้จ่ายอย่างไร ก็ลองชั่งน้ำหนักตามข้อดีข้อเสียที่ว่ามานะจ๊ะ แล้วกลับมาติดตามข่าวสารที่สดใหม่ รวดเร็ว ถึงใจ พร้อมบทความเกร็ดความรู้ในโลกคริปโตแบบนี้ ได้ที่ “WikiBit” แอปนำเสนอข่าวสารวงการคริปโต พร้อมให้บริการตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน เพียงแค่กดค้นหา ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะขึ้นมาแบบจัดเต็ม ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:

มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

  • แปลงโทเค็น
  • การแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
  • การคำนวณอัตราแลกเปลียน
/
ชิ้น
อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้
จำนวนเงินที่สามารถแลกได้

0.00