ประชันเทคนิค!! เทรดคริปโตแบบ ‘All – in’ กับ Allocation อันไหนดีกว่ากัน?

ประชันเทคนิค!! เทรดคริปโตแบบ ‘All – in’ กับ Allocation อันไหนดีกว่ากัน? WikiBit 2021-06-18 16:09

บทความนี้แอดจะขอหยิบยกคู่เทคนิคอย่าง ‘All – in’กับ ‘Allocation’ มาประชันกันให้ดูว่าแบบไหนดีกว่ากัน

ใครๆ ก็รู้ว่าตลาดคริปโตนั้นผันผวนแค่ไหน แถมเหรียญใหม่ๆ ก็กำเนิดขึ้นมากมายจนเลือกไม่ถูก แต่สิ่งที่จะทำให้นักลงทุนอยู่รอดได้ในวงการนี้คงหนีไม่พ้นการใช้เทคนิคต่างๆ ในการเทรด เพื่อลดความเสี่ยง และสร้างกำไรตามโอกาส ซึ่งปัจจุบันเทคนิคในการเทรดคริปโตนั้นมีเยอะมาก แต่บทความนี้แอดจะขอหยิบยกคู่เทคนิคอย่าง ‘All – in’กับ ‘Allocation’ มาประชันกันให้ดูว่าแบบไหนดีกว่ากัน ‘All – in’ คือ การเทรดแบบหมดหน้าตัก มีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมด แบบจัดหนักจัดเต็ม จะได้หรือเสียก็วัดกันไปเลย การเทรดแบบนี้มักเหมาะกับคนที่มีเงินทุนเยอะ กล้าได้กล้าเสีย หรือใช้เงินเย็นของตัวเองในการเทรด ทั้งนี้อาจจะต้องประกอบกับการศึกษาข้อมูลของเหรียญ และวิเคราะห์สถานการณ์มาแน่นพอถึงจะกล้าเทรดแบบนี้ได้ เพราะมีความเสี่ยงสูง ถ้าผลลัพธ์ออกมาเป็นลบก็คงเจ็บใจ แต่ถ้าบวกเมื่อไหร่เตรียมเรียกว่า ‘ท่านได้เลย’
ข้อดีของการเทรดแบบ ‘All – in’1. ไม่ต้องไปโฟกัส หรือสนใจความเคลื่อนไหวของราคาเหรียญหลายตัวให้ปวดหัว ดังนั้นการโฟกัสทั้งหมดจะไปลงที่ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้น2. ไม่ต้องตามอ่านข่าวสารเยอะ อ่านแค่ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเหรียญของตัวเอง มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย3. หากเดินเกมมาดี ข้อมูลแน่น วิเคราะห์เป็น และประสบผลสำเร็จ บอกได้คำเดียวว่า ‘รวย’ข้อเสียของการเทรดแบบ ‘All – in’1. ทำงานหนักหน่อย เพราะต้องคัดแล้วคัดอีกว่าจะลงทุนตัวไหน

  2. พอร์ตอาจจะผันผวนหนักระหว่างทาง จนไม่สามารถ “ถือ” ไปได้ตลอดรอดฝั่ง

  3. คำว่า “ศูนย์” พบเจอได้ง่ายๆ หากวิเคราะห์ผิด หรือโชคร้าย บางรายหมดตัวก็มีนะขอบอก

  ‘Allocation’ คือ การเทรดแบบแบ่งพอร์ต หรือภาษาทั่วไปเรียกว่า แบ่งไม้ นำเงินทุนที่มีแบ่งออกเป็นส่วนๆ เพื่อนำไปลงทุนได้หลายๆ ตัว เป็นการกระจายความเสี่ยง เหมาะสำหรับคนที่หวังกำไร ขาดทุนได้แต่ไม่อยากขาดเยอะนั่นเอง

  

  ข้อดีของการเทรดแบบ ‘Allocation’

  1. เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุน ให้สามารถลงทุนได้หลายๆ เหรียญ

  2. เป็นการกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของพอร์ต

  3. มีความยั่งยืน สามารถถือได้แบบยาวกว่า

  

  ข้อเสียของการเทรดแบบ ‘Allocation’

  1. ต้องติดตามราคา และข่าวสารอย่างบ้าคลั่ง เพราะถือหลายตัว

  2. โอกาสได้กำไรแบบมหาศาลนั้นมีน้อย เพราะต้องกระจายเงินไว้หลายก้อน

  3. มีความยุ่งยากในการวางแผนเยอะ ทั้งการจัดพอร์ต การแบ่งเงิน และอื่นๆ

  อย่างไรก็ตามการเทรดคริปโตทั้ง 2 แบบนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบ และความสามารถส่วนบุคคล แต่ถ้ามือใหม่อยากลองทำตาม แอดขอแนะนำแบบ ‘Allocation’ เพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋า ดังนั้นคุณควรค่อยๆ เก็บสะสมไปเรื่อยๆ ก่อน พอเที่ยวบินสูงขึ้น ข้อมูลแน่น วิเคราะห์เป็น อยากจะลองแบบ ‘All – in’ สักครั้งในชีวิตก็ย่อมได้ แต่ถ้าโชคร้ายทำความดีมาน้อย เจอคำว่า “ศูนย์” เมื่อไหร่ อย่าลืมหาวิธีรับมือกับสภาพจิตใจของตัวเองด้วยนะ แอดเป็นห่วง!!

  ไม่ว่าเทรดแบบ ‘All – in’ หรือ ‘Allocation’ สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นคุณกดติดตามเพจติดตามเพจ ‘Wikibit’ แล้วโหลดแอปพลิเคชั่น ‘Wikibit’ มาไว้ในมือถือ เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับวงการคริปโต แถมตัวแอปยังมีฟีเจอร์โดนๆ สำหรับนักลงทุน อย่าง การตรวจสอบ Exchange และ Token ไว้ให้อีกด้วย เพื่อช่วยให้การตัดสินใจในการลงทุนของคุณนั้นง่ายขึ้น เพียงแค่คุณกดค้นหาเท่านั้น ข้อมูลที่คุณควรรู้ก็จะปรากฏขึ้นมาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คะแนนความน่าเชื่อถือจากแอป ใบอนุญาต ข้อมูลโครงการ การเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันการมีอยู่ของบริษัทนั้น ถือว่าครบจบในแอปเดียว โหลดเลย!

  ติดตามข้อมูลข่าวสารวงการคริปโต พร้อมตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ได้ที่….

  App : “WikiBit” (ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!)

  Facebook : https://www.facebook.com/Wikibit.th/ (กด SEE FRIST เพื่อที่คุณจะไม่พลาดข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ จากทางเพจ)

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:

มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ

  • แปลงโทเค็น
  • การแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
  • การคำนวณอัตราแลกเปลียน
/
ชิ้น
อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนี้
จำนวนเงินที่สามารถแลกได้

0.00